เค-วัน นักสู้วัวกระทิง
ถั่งเช่า คืออะไร
ถั่งเช่า หรือ ตังถั่งเช่า คือ พืชตระกูลเห็ดราในสกุล Ophiocordyceps มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ophiocordyceps sinensis มีชื่อเรียกทั่วไปอีกว่าหญ้าหนอน เกิดจากาการที่ตัวหนอนอ่อนของตัวด้วงจำพวกผีเสื้อหนอน มอด ตั๊กแตน หรือด้วงค้างคาวซึ่งมีเชื้อมุดเข้าไปอยู่ใต้ดินในช่วงฤดูหนาว และค่อยๆกลายสภาพเป็นเชื้อราที่มีชื่อว่า Sclerotea และเมื่อถึงฤดูร้อนเส้นใยในตัวหนอนที่ตายแล้วก็จะสร้างดอกออกมาปกคลุมตัวหนอนจนมีรูปร่างคล้ายกระบอง จากนั้นก็จะเจริญเติบโตขึ้นมีลักษณะกลายต้นหญ้า
โดยถั่งเช่า ประกอบด้วย 2 ส่วนได้แก่ ตัวหนอน และเห็ดที่เจริญเติบโตขึ้นบริเวณส่วนหัวของหนอน มีชื่อว่า Cordyceps sinensis (ฺBerk.) Saec. รสชาาติของถั่วเช่าออกขม และอมหวานเล็กน้อย สามารถกินได้ทั้งแบบสดๆหรือนำไปต้มเพื่อรับประทานก็ได้ ทั้งนี้ ถั่งเช่าที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่ ถั่งเช่า และ ถั่งเช่าสีทอง ซึ่งเป็นเห็ดในสกุลเดียวกัน และมีสรรพคุณใกล้เคียงกัน
ถั่งเช่า ที่ได้รับการขนานนามว่า " ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย " เนื่องจากมีสรรพคุณโดดเด่นในเรื่องการเสริมสรรถภาพทางเพศในเพศชาย อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่อยู่ในแถบที่ราบสูงทิเบต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสูงจากน้ำทะเลมากกว่า 4,000 เมตรขึ้นไป นอกจากนี้ก็ยังสามารถพบได้ในบริเวณภาคใต้ของมณฑลชิงไห่ เขตซางโตวในทิเบต มณฑลกานซู ภูฏาน เนปาล และยังมีการเพาะเห็ดนี้ในมณฑลเสฉวน ยูนนาน และกุ้ยโจว ถั่งเช่า ถือเป็นสมุนไพรจีนที่หายากและราคาแพง แต่มีสรรพคุณมากมาย ทำให้เจ้าสมุนไพรชนิดนี้ยังคงความนิยมสูงนั่นเอง
ถั่งเช่า สรรพคุณเด่น ๆ ที่อยากให้รู้
ถั่งเช่าเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโพลีแซคคาไรด์(galactomannan) นิวคลีโอไทด์
(adenosine) กรดคอร์ไดเซปิก (Cordycepic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีเฉพาะในถั่งเช่า อีกทั้งยังมีกรออะมิโน และ เออร์โกสเตอรอล (Ergosterol ) ที่มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อรา ไม่เพียงเท่านั้น ยีงมีสารอาหารที่สำคัญ อาทิ โปรตีน วิตามิน E วิตามิน K วิตามิน B1
วิตามิน B2 วิตามิน B12 โพแทสเซียม โซเดียมแคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี และซิลิเนียม จึงทำให้ถั่งเช่ากลายเป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาใช้ในการบำรุงสุขภาพและรักษาอาการบางชนิด โดยที่โดดเด่นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการเสริมสมรรถภาพทางเพศ เราไปดูกันดีกว่าว่าสรรพคุณของถั่งเช่าจะมีอะไรบ้างค่ะ
1. ช่วยปรับการทำงานของหัวใจ
ในเรื่องของหัวใจ ถั่งเช่าถือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยปรับอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติได้ อีกทั้งยังช่วยบรรเทา อาการหัวใจขาดออกซิเจน และเพิ่มออกซิเจนให้หัวใจได้ เหมาะสำหรับบำรุงผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
2. เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้นกัน
ร่างกายเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ที่ใช้เพื่อกำจัดเซลล์แปลกปลอมหรือเซลล์ที่ตายแล้ว แต่ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะการใช้มากเกินไปสารในถั่งเช่าอาจไปกดการทำงานบางอย่างของระบบภูมิคุ้มกันได้
3. ต้านมะเร็ง
นอกจากเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันแล้ว ถั่งเช่าก็ยังมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง โดยเจ้าสารคอร์ไดเซปิน (Cordycepin) ที่อยู่ในถั่งเช่าถือเป็นสารทีมีความสำคัญในการต่อต้านการเกิดมะเร็ง ป้องกันการเกิดและการแพร่กระจายของเนื้อร้าย รวมทั้งยังป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่รักษาหายแล้วกลับมาเป็นซ้ำอีกด้วย
4. ลดไขมันในเลือด
อีกสรรพคุณหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คงจะเป็นการควบคุมระดับไขมันในเลือด ลดคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยอื่นๆ อย่างเช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ก็ยังเพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี ซึ่งจะส่งผล
โดยตรงต่อการลดความเสียงโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้
5. ฟื้นฟูการทำงานของไต
สำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้องรัง การรับประทานถั่งเช่าจะช่วยบรรเทาอาการลง และทำให้สุขภาพไตดีขึ้น อีกทั้งยังลดความเสียหายของไตที่เกิดจากสารพิษตกค้างได้ค่ะ
6. เสริมสร้างการทำงานของตับ
สารพิษเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตับถูกทำลาย การกินถั่งเช่าเป็นอาหารเสริมจะช่วยลดผลกระทบจากสารพิษและป้องกันการเกิดพังพืดในตับ ขณะที่สารต้านอนุมูลอิสระก็ยังเข้าไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไวรัสตับอักเสบได้ด้วย
7. บำรุงโลหิต
นอกจากกจะบำรุงตับ ไต รวมทั้งหัวใจแล้ว สารที่อยู่ในถั่งเช่าก็ยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบโลหิตทำให้ร่างกายสร้างไขกระดูกมากขึ้นซึ่งทำให้เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวถูกสร้างในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
8. ลดระดับน้ำตาลในเลือด
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ถั่งเช่าถือเป็นสมุนไพรอีกชนิดที่ช่วยลดน้ำตาลได้ โดยมีการศึกษาพบว่า การรับประทานถั่งเช่าวันละ 3 กรัม จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดถึง 95 % ซึ่งมากกว่าการใช้ยาแผนปัจจุบันที่ควบคุมได้เพียงแค่ 54 %
แปะจี้
. สารที่พบในแปะจี้ ได้แก่ Angelicotoxin anomalin Byak-angelicin (มีประสิทธิภาพทำให้หลอดเลือดของหัวใจขยาย) Lmperatorin,Oxypevcedanin เป็นต้น สารเหล่านี้จะไปกระตุ้นกระดูกสันหลัง หากใช้มากเกินขนาดจะทำให้ร่างกายบางส่วนมีความรู้สึกชา แต่ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสมจะไปช่วยกระตุ้นประสาททางจมูก ทำให้เส้นเลือดฝอยในจมูกหดตัวเป็นผลให้หายใจได้คล่อง อีกทั้งยังพบสาร Byak-angelicol phellopterin เป็นต้น
. ส่วนอีกข้อมูลนั้นระบุว่า องค์ประกอบทางเคมีของแปะจี้นั้นจะมีสารในกลุ่ม Coumarins ประเภท Furacoumarins หลายชนิด เช่น byak-angelicin,byak-angelicol,imperatorin,isoimperatorin,oxypeucedanin,phellopterin สารในกลุ่ม polyacetylenic,ferulic acid นอกจากนี้ยังมีสาร marmecin และ scopoletin แปะจี้ สามารถต้านเชื้อ Columbacillus ในกระเพาอาหารและลำไส้ใหญ่ได้ และยังต่อต้านเชื้ออะมีบาที่เป็นเหตุของโรคบิด ยับยั้งเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคไทฟอยยด์และ
โรคอหิวาตกโรค และน้ำต้มของแปะจี้ สามารถยับยั้งเชื้อแบคที่เรียที่ผิวหนังได้ด้วย
. สารที่เป็นพิษของแปะจี้ คือสาร Angelicotoxin เมื่อใช้ในจำนวนน้อย จะมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทกระดูกสันหลังส่วนกลางและประสาทควบคุมการทำงานของเส้นเลือดในกระดูกสันหลัง จึงสามารถเพิ่มการหายใจให้ลึกขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น แต่ชีพจรกลับเต้นช้าลง อีกทั้งยังมีบทบาทในการไปกระตุ้นไขสันหลัง แต่หากใช้ในประมาณที่มากเกินไปจะทำให้เกิดการกระตุกเป็นพัก ๆ อย่างแรง จนในที่สุดจะเกิดความรู้สึกชาไปทั้งตัว
. มีรายงานวิจัยพบว่า แปะจี้นั้นมีฤทธิ์คลายความกังวล ป้องกันสมองเสื่อม มีฤทธิ์ทำให้หลับ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ต้านการก่อเกิด
เนื้องอก มีฤทธิ์ต้านการเต้นผิดปกติของหัวใจหนู มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ต้านการอักเสบ ปกป้องตับ ต้านเชื้อแบคทีเรีย
ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ฯลฯ
ประโยชน์ของแปะจี้
. ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางบำรุงผิวหน้าหลายชนิด
. คนจีนที่ต้มน้ำเลี่ยงจุ๊ยขาย มักจะใส่แปะจี้ลงไปด้วย
สรรพคุณ และ ประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) ได้แก่
1. ประกอบด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด (ปกติมี 20 ชนิด ) แต่มีกรดอะมิโนครบทั้ง 9 ชนิด
2. มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อย รวม 21 ชนิด ที่สำคัญได้แก่ สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส
ซิลีเนียม และเจอร์มาเนียม ฯลฯ
3. มีวิตามินซี สูงกว่าส้ม 500 เท่า (เป็นพืชที่มีวิตามินซีสูงเป็นอันดับสอง รองจากคามู คามูเบอร์รี่ )
4. มีวิตามิน บี1 บี2 บี6 และวิตามินอี
5. มีสารโพลี่แซคคาไรด์ 4 ชนิด : LBP-1 LBP-2,LBP-3,LBP-4
- ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุลดี
- ช่วยปรับความดันโลหิตให้ปกติ
- ช่วยให้น้ำตาลในเลือด และอินซูลินอยู่ในสภาวะสมดุล
- ช่วยลดน้ำหนัก โดยเสริมการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานแทนไขมัน
- ช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีหรือรังสีให้สู่ปกติได้เร็วขึ้น
6. มีสารเจอร์มาเนี่ยม Germanium : Ge ที่อยู่ในสภาพอินทรีย์ ( Organic ) ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง
7. มีสารซิแซนทิน (Zeaxanthin) มีสูงถึง 162 มก./100 กรัมสููงกว่าสาหร่ายเกลียวทองประมาณ 5 เท่า
- ช่วยบำรุงสายตา และป้องกันแสงสีน้ำเงินที่ทำลายดวงตา
- ช่วยผู้มีอาการ ต้อลม ตาพร่า ตามัว ให้คืนสู่สภาพปกติ
8. เบต้า - ไซโตสเตอร์รอล ( Beta - sitosterol )
- ช่วยลดคอเรสเตอรอลโดยการดูดซึมที่ลำไส้
- ช่วยลดอาการต่อมลูกหมากโต
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพน้ำอสุจิให้แข็งแรง
9. ไซเพอโรน (Cyperone) ช่วยให้หัวใจและความดันทำงานได้ปกติ
10. ไฟซาลิน (Physalin) ช่่วยกำจัดโรคร้าย ลิวคีเมีย ( Leukemia )
11. บีรเทน ( Betaine) เป็นสารประกอบที่ให้ตับใช้ ผลิตโคลีนซึ่งเป็นสารประกอบที่
- ช่วยให้มีความจำดี
- ช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโต
- ช่วยป้องกันโรคตับ
12. สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในบรรดาผักและผลไม้อื่นๆคือ มีค่า ORAC สูง 25,300 Unite
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นคุณสามารถดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่(เก๋ากี้) เพื่อรักษาและป้องกันอาการต่างๆได้ เพราะน้ำโกจิเบอร์รี่
(เก๋ากี้) ก็คือ น้ำผลไม้ไม่ใช่ยา ไม่มีผลข้างเคียง ชาวจีนใช้กันมาเป็นเวลายาวนานกว่า 3,000 ปี
โสมเกาหลี สรรพคุณ
- โสมเกาหลีมีสรรพคุณช่วยต้านพิษจากแอลกอฮอล์ และบำรุงตับ
- โสมเกาหลีเป็นยาบำรุงหัวใจ ป้องกันอาการหัวใจขาดเลือด
- ประโยชน์ของโสมเกาหลีช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย
- โสมเกาหลีช่วยกระตุ้นการสร้างอสุจิในเพศชายและกระตุ้นการสร้างรังไข่ในเพศหญิง
- สรรพคุณโสมเกาหลีต้านเชื้อไวรัส HIV-1 และช่วยต้านพิษจากรังสีแกรมม่า
- ช่วยบำรุงอวัยวะภายในร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานดีขึ้น ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย
- ช่วยต้านมะเร็ง ลดการเกิดเซลล์มะเร็ง
- ช่วยต่อต้านการจับตัวกันของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ลดการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด
- ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและต่อต้านการเสื่อมของร่างกาย
- มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง
- กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนทำให้ช่วยลดความเครียดและความกังวลได้
- ทำให้ร่างกายสดชื่น แก้อาการขาดน้ำ และช่วยแก้อาการวิงเวียนศีระษะได้
เห็ดหลินจือ สรรพคุณ
- กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านเนื้องอกและมะเร็ง รักษาโรคทางเดินปัสสาวะ รักษาโรคหัวใจ ช่วยให้นอนหลับป้องกันเส้นประสาทเสื่อม ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ
กระชายดำ สรรพคุณ
- ช่วยให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล แก้ตกขาว ขยายหลอดเลือด ขจัดไขมันในหลอดเลือด โรคกระเพาะ โรคหัวใจ อื่นๆ
- บำรุงฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ชายเหนือชาย
- กระตุ้นประสาท ทำให้กระชุ่มกระชวย
- บำรุงกำลัง
- เป็นยาอายุวัฒนะ ชลอความแก่
- ขับลม ขับปัสสาวะ
- แก้โรคกระเพาะอาหาร
- แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
- บำรุงเลือดสตรี แก้ตกขาว ทำให้ประจำเดือนมาปกติ